تأملات في سورة الجاثية
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาเสมอ
แท้จริงอัลกุรอานที่ชาวมุสลิมศรัทธากันอยู่ทั่วโลกนั้นเป็นพระมหาคัมภีร์มหัศจรรย์ซึ่งพระเจ้าอัลลอฮฺ ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณ ได้ทรงประทานลงมาให้แก่มุฮัมมัดศาสนฑูตสุดท้ายเพื่อนำมนุษยชาติสู่สวนสวรรค์ในวันปรโลก
แท้จริงในชั้นฟ้าทั้งหลาย และแผ่นดินนั้นแน่นอน ย่อมมีสัญญาณหลากหลายที่บ่งชี้ถึงเดชานุภาพอันสมบูรณ์ของอัลลอฮฺสำหรับบรรดาผู้ศรัทธา
ในการที่อัลลอฮฺทรงบังเกิดพวกเรามวลมนุษย์ซึ่งประกอบด้วยอวัยวะส่วนต่าง ๆ และการมีโครงสร้างอย่างสมบูรณ์ของพวกเรา และสิ่งที่พระองค์ทรงให้สัตว์แต่ละชนิดแพร่สะพัดออกไปนั้นย่อมเป็นสัญญาณหลากหลายสำหรับหมู่ชนผู้เชื่อมั่น
การสับเปลี่ยนของกลางคืนและกลางวัน และน้ำที่อัลลอฮฺทรงหลั่งลงมาจากฟากฟ้า เพื่อเป็นปัจจัยยังชีพนั้น พระองค์ทรงให้แผ่นดินมีชีวิตชีวาโดยน้ำฝนหลังจากการแห้งแล้งของมัน และการเปลี่ยนทิศทางเดินของลม ย่อมเป็นสัญญาณหลากหลาย สำหรับหมู่ชนผู้ใช้สติปัญญา
นั่นคือสัญญาณต่าง ๆ ของอัลลอฮฺ ซึ่งพระองค์ทรงได้สาธยายสัญญาณเหล่านั้นแก่เราด้วย ความจริง ดังนั้น ด้วยคำบอกเล่าอันใดเล่า เหนือไปจากอัลลอฮฺและสัญญาณต่าง ๆ ของพระองค์ที่พวกมนุษย์จะศรัทธากัน
ความหายนะจงประสบแด่ทุกคนที่เป็นผู้โกหก ผู้ทำบาปมาก เขาได้ฟังโองการของอัลลอฮฺในอัลกุรอานถูกสาธยายแก่เขา แล้วเขาก็ดื้อรั้นอย่างยโสประหนึ่งว่าเขาไม่เคยฟังโองการมาก่อนเลย ดังนั้น มุฮัมมัดศาสนฑูตของอัลลอฮฺได้แจ้งข่าวแก่เขาถึงการลงโทษอันเจ็บปวด
และเมื่อผู้ปฏิเสธศรัทธาได้ทราบสิ่งใดจากโองการของอัลลอฮฺ เขาก็ถือเอาโองการนั้น ๆ เป็นการล้อเลียน ชนเหล่านี้สำหรับพวกเขาจะได้รับการลงโทษอันอัปยศ เบื้องหน้าพวกเขาคือนรกญะฮันนัม และสิ่งที่พวกเขาขวนขวายไว้จะไม่อำนวยประโยชน์อันใดแก่พวกเขาได้ และสิ่งที่พวกเขายึดถือเอาเป็นผู้คุมครองอื่นจากอัลลอฮฺ ก็จะไม่อำนวยประโยชน์เช่นกัน และสำหรับพวกเขาจะได้รับการลงโทษอย่างใหญ่หลวง
นี่คือแนวทางที่ถูกต้อง ส่วนบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาต่อโองการของอัลลอฮฺและต่อคัมภีร์อัลกุรอาน สำหรับพวกเขาจะได้รับการลงโทษอันมหันต์อย่างเจ็บปวด
อัลลอฮฺ คือผู้ทรงทำให้ทะเลเป็นประโยชน์สำหรับมวลมนุษย์ เพื่อให้เรือเดินสมุทรแล่นไปตามน่านน้ำโดยพระบัญชาของพระองค์ และเพื่อพวกเราจะได้แสวงหาความโปรดปรานของพระองค์ และเพื่อพวกเราจะได้ขอบคุณ และพระองค์ทรงทำให้สิ่งที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลาย และสิ่งที่อยู่ในแผ่นดินเป็นประโยชน์แก่พวกเรา ทั้งหมดนี้มาจากพระองค์แท้จริงในการนั้น แน่นอนย่อมเป็นสัญญาณสำหรับหมู่ชนผู้ใคร่ครวญ
อัลลอฮฺทรงใช้ให้บรรดามุสลิมอดทนต่อการทำร้ายของพวกที่มิได้เป็นมุสลิม และพระองค์ทรงให้มุฮัมมัดศาสนฑูตแห่งยุคสุดท้ายนี้ประกาศสำหรับชาวมุสลิมว่า : “จงกล่าว แก่บรรดาผู้ศรัทธาให้พวกเขาอภัยแก่บรรดาผู้ที่ไม่หวังในวันทั้งหลายของอัลลอฮฺ เพื่อพระองค์จะทรงตอบแทนแก่หมู่ชนตามที่พวกเขาได้ขวนขวายเอาไว้ ผู้ใดกระทำความดีก็จะได้แก่ตัวของเขาเอง และผู้ใดกระทำความชั่วก็จะตกหนักแก่ตัวของเขาเอง แล้วพวกเจ้าย่อมจะกลับไปหาพระเจ้าของพวกเจ้า”
โดยแน่นอนอัลลอฮฺทรงได้ประทานคัมภีร์และข้อชี้ขาดตัดสินและการเป็นนะบีแก่วงศ์วานของอิสรออีล และพระองค์ยังทรงได้ให้ปัจจัยยังชีพจากสิ่งดี ๆ แก่พวกเขา และพระองค์ยังทรงได้ยกย่องพวกเขาให้เหนือประชาชาติทั้งหลายในยุคนั้น และพระองค์ยังทรงได้ประทานหลักฐานอันชัดแจ้งทั้งหลายแก่พวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขามิได้ขัดแย้งกัน เว้นแต่หลังจากได้มีความรู้มายังพวกเขาแล้ว เป็นเพราะความริษยาระหว่างพวกเขากันเอง แท้จริงอัลลอฮฺซึ่งเป็นพระเจ้าแห่งมนุษยชาติจะทรงตัดสินระหว่างพวกเขาในวันปรโลก ในสิ่งที่พวกเขาได้ขัดแย้งกันในเรื่องนั้น
แล้วอัลลอฮฺทรงได้ตั้งมุฮัมมัดศาสนฑูตสุดท้ายของพระองค์ให้อยู่บนแนวทางหนึ่งในเรื่องของศาสนาที่แท้จริง ดังนั้นจงปฏิบัติตามแนวทางนั้น และอย่าได้ปฏิบัติตามอารมณ์ใฝ่ต่ำของบรรดาผู้ไม่รู้เรื่องสัจธรรมแห่งศาสนาของอัลลอฮฺและบรรดาผู้ที่หลงผิด แท้จริงพวกเขาไม่อาจจะช่วยผู้ที่ยอมเดินตามพวกเขาให้พ้นจากการลงโทษของอัลลอฮฺแต่อย่างใด และแท้จริงพวกอธรรมนั้นต่างก็เป็นมิตรซึ่งกันและกัน แต่อัลลอฮฺนั้นทรงเป็นผู้คุ้มครองบรรดาผู้ยำเกรงต่ออัลลอฮฺ
อัลกุรอานนี้เป็นแสงสว่างแก่มนุษย์ และเป็นแนวทางที่ถูกต้องและความเมตตาแก่หมู่ชนที่มีความเชื่อมั่นและปฏิบัติตามตามด้วยจริงใจ
หรือบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาที่กระทำความชั่วคิดหรือว่าอัลลอฮฺจะทรงให้พวกเขามีความเท่าเทียมกับบรรดาผู้ศรัทธา และกระทำความดีทั้งหลาย ทั้งในเวลามีชีวิตของพวกเขาในโลกนี้และการตายของพวกเขาในวันปรโลก ? เป็นไปไม่ได้ที่อัลลอฮฺจะให้มีความเท่าเทียมกันระหว่างบรรดาผู้ศรัทธาและบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา เพราะชาวมุสลิมบรรดาผู้ศรัทธานั้นมีชีวิตต่อการจงรักภักดีต่ออัลลอฮฺ ส่วนบรรดาผู้ที่มิได้เป็นมุสลิมนั้นมีชีวิตอยู่กับการปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮฺและการฝ่าฝืนต่อคำสั่งของพระองค์ แท้จริงการให้เท่าเทียมกันระหว่างบรรดาผู้เคารพภักดีอัลลอฮฺ กับบรรดาผู้ที่เคารพภักดีเจว็ดทั้งหลายนั้นเป็นการตัดสินที่ผิดและมันชั่วช้าแท้ ๆ
อัลลอฮฺทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินด้วยความเที่ยงธรรม ทรงประทานบทบัญญัติต่าง ๆ และทรงส่งบรรดาศาสนทูตมาเพื่อให้มนุษย์ยึดถือปฏิบัติในการดำรงชีวิตอยู่ในโลกนี้ ดังนั้นผู้ใดศรัทธาต่ออัลลอฮฺและกระทำความดีตามแบบอย่างของศาสนฑูตของพระองค์ เขาก็จะไดรับการตอบแทนที่ดีคือสวนสวรรค์ และผู้ใดปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮฺและกระทำความชั่ว การตอบแทนของเขาก็คือนรก และพวกเขาจะไม่ถูกตัดสินด้วยความเอนเอียงและอธรรมแต่อย่างใด
ฉันขอถามท่านว่า : “ท่านเคยเห็นผู้ที่ยึดถือเอาอารมณ์ต่ำของเขาเป็นพระเจ้าของเขาบ้างไหม? และอัลลอฮฺจะทรงให้เขาหลงทางด้วยความรอบรู้ของพระองค์ และทรงผนึกการฟังของเขาและหัวใจของเขา และทรงทำให้มีสิ่งบดบังดวงตาของเขา ดังนั้นผู้ใดเล่าจะชี้แนะแก่เขา หลังจากอัลลอฮฺมิทรงประสงค์ให้พวกเขาได้รับทางนำ พวกท่านมิได้ใคร่ควรญกันดอกหรือ?
และพวกเขากล่าวว่า : “ไม่มีชีวิตอื่นใดดอกนอกจากการมีชีวิตของเราในโลกนี้ เราจะตายไปและเราจะมีชีวิตอยู่ และไม่มีสิ่งใดจะมาทำลายเราได้ให้เราตาย นอกจากกาลเวลาเท่านั้น”
สำหรับพวกเขาไม่มีความรู้ในเรื่องนั้นดอก นอกจากพวกเขาเดาเอาเท่านั้น และพวกเขาไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่จะนำมายืนยันคำกล่าวของพวกเขาได้นอกจากการนึกคิดและการคาดคะเนเท่านั้น
และเมื่อโองการต่าง ๆ อันชัดแจ้งของอัลลอฮฺถูกสาธยายแก่พวกเขา ข้อขัดแย้งของพวกเขาก็ไม่มีอะไร นอกจากพวกเขาจักกล่าวว่า : “จงนำบรรพบุรุษของเราให้คืนชีพกลับมา หากพวกท่านเป็นผู้สัตย์จริง” เพื่อเป็นคำตอบในเรื่องอย่างนี้พระเจ้าอัลลอฮฺทรงแนะนำให้มุฮัมมัดศาสนฑูตของพระองค์กล่าวว่า : “อัลลอฮฺทรงให้พวกท่านมีชีวิตขึ้นมา และทรงให้พวกท่านตายไป แล้วพระองค์จะทรงรวบรวมพวกท่านในวันปรโลกอย่างไม่มีข้อสงสัยใด ๆ ในเรื่องนั้น แต่ส่วนมากของมนุษย์ไม่รู้”
และอำนาจเด็ดขาดแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินนั้นเป็นของอัลลอฮฺ วันแห่งยามอวสานจะเกิดขึ้น ในวันนั้นบรรดาผู้กล่าวเท็จจะขาดทุนอย่างย่อยยับ และในวันนั้นเราจะเห็น กลุ่มชนทุกชาติอยู่ในสภาพคุกเข่าเพราะความกลัว แต่ละประชาชาติจะถูกเรียกให้ไปรับบันทึกการงานของตน และจะมีเสียงกล่าวขึ้นว่า : “วันนี้พวกเจ้าจะได้รับการตอบแทนตามที่พวกเจ้าได้กระทำไว้ นี่คือบันทึกของอัลลอฮฺ (บันทึกนี้) จะพูดถึงเรื่องของพวกเจ้าด้วยความจริง (ไม่ขาด ไม่เกิน) แท้จริงเจ้าได้ให้บันทึกไว้ตามที่พวกเจ้าได้กระทำไว้”
ดังนั้นส่วนบรรดาผู้ศรัทธา และกระทำความดีทั้งหลาย พระเจ้าของพวกเขาก็จะทรงให้พวกเขาเข้ามาอยู่ในความเมตตาของพระองค์ นั่นคือความสำเร็จอันชัดแจ้ง และส่วนบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธานั้น อัลลอฮฺจะทรงตำหนิแก่พวกเขาโดยมีคำกล่าวว่า : “โองการต่าง ๆ ของข้า มิได้ถูกสาธยายแก่พวกเจ้าดอกหรือ? แต่พวกเจ้าอวดโอหังและพวกเจ้าเป็นหมู่ชนผู้กระทำผิด”
และเมื่อได้มีการกล่าวว่า : “แท้จริงสัญญาณของอัลลอฮฺนั้นเป็นความจริง และยามอวสานนั้นจะมีขึ้นจริงไม่มีข้อสงสัยใด ๆ ในเรื่องนั้น”
พวกปฏิเสธศรัทธาก็จะกล่าวว่า : “เราไม่รู้ว่ายามอวสานคืออะไร เราคิดว่ามันมิใช่อะไรเลยนอกจากเป็นการเดาเท่านั้น และเรามิได้เป็นผู้เชื่อมั่นในเรื่องนี้”
และความชั่วที่พวกเขาได้กระทำเอาไว้จะเป็นที่ประจักษ์แก่พวกเขา และสิ่งที่พวกเขาเคยเยาะเย้ยไว้นั้นก็ห้อมล้อมพวกเขา และจะมีเสียงกล่าวขึ้นว่า : “วันนี้เราจะลืมพวกเจ้าเช่นที่พวกเจ้าได้ลืมการพบในวันนี้ของพวกเจ้า และนรกคือที่พำนักของพวกเจ้า และสำหรับพวกเจ้าจะไม่มีผู้ช่วยเหลือ”
อันเนื่องจากบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาได้เยาะเย้ยพระดำรัสของอัลลอฮฺและถือเป็นเรื่องล้อเลียนและชีวิตแห่งโลกนี้ได้ล่อลวงพวกเขา ดังนั้นวันปรโลกพวกเขาจะมีถูกนำออกจากนรกนั้น และพวกเขาจะไม่ถูกขอร้องให้กลับไปแก้ตัวเพื่อขอขมาโทษ
ฉะนั้นมวลการสรรเสริญเป็นของอัลลอฮฺพระเจ้าแห่งชั้นฟ้าทั้งหลาย และพระเจ้าแห่งแผ่นดินนี้ พระเจ้าแห่งสากลโลก ความยิ่งใหญ่ในชั้นฟ้าทั้งหลาย และในแผ่นดินนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์เท่านั้น และพระองค์เป็นผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณ
ท่านจงกล่าวเถิด คำปฏิญาณว่า : “ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ มุฮัมมัด รอซูลุลลอฮฺ” “ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ และมุฮัมมัดเป็นศาสนฑูตของอัลลอฮฺ”
แน่นอน ท่านจะพบกับความสันติสุขในโลกนี้ และท่านจะพ้นจากไฟนรก และจะได้เข้าสวนสวรรค์ในวับปรโลก
ผู้เผยแผ่ศาสนาของอัลลอฮฺ
บ่าวของอัลลอฮฺ / อะหมัดซิดดิก อับดุลรอฮฺหมาน
มัสยิดอิสลาม 157 ม.14 ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย 57110