Adabi sna i buđenja - 1
สิ่งที่ควรทำเมื่อจะเข้านอน
มีรายงานจากญาบิร เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เล่าว่าท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า :
«أَطْفِئُوا المَصَابِيْـحَ بِاللَّيلِ إذَا رَقَدْتُـمْ، وَأَغْلِقُوا الأَبْوَابَ، وَأَوْكِئُوا الأَسْقِيَةَ، وَخَـمِّرُوا الطَّعَامَ وَالشَّرَابَ»
ความว่า : “พวกท่านจงดับตะเกียงในตอนกลางคืนเมื่อพวกท่านจะนอน จงปิดประตูลงกลอน จงปิดมัดปากภาชนะที่ใส่น้ำให้มิดชิด และจงครอบอาหารและเครื่องดื่ม” (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ตามสำนวนนี้ หมายเลข 3280 และมุสลิม หมายเลข 2012)
ล้างมือให้หมดคราบมันก่อนจะนอน
มีรายงานจากอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ว่าท่านเราะสูลุลลอฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ได้กล่าวว่า :
«مَنْ نَامَ وَفِي يَدِهِ غَمَرٌ وَلَمْ يَغْسِلْهُ فَأَصَابَهُ شَيْءٌ، فَلَا يَلُومَنَّ إِلَّا نَفْسَهُ»
ความว่า : “ผู้ใดเข้านอนแล้วที่มือของเขามีกลิ่นไขมันและเขาไม่ได้ล้างมือ แล้วก็เกิดสิ่งหนึ่งกับตัวเขา เขาก็จงอย่ากล่าวโทษนอกจากต่อตัวเอง" (หะดีษ เศาะฮีหฺ, บันทึกโดย อบู ดาวูด หมายเลข 3852 ตามสำนวนนี้, อัต-ติรมิซีย์ หมายเลข 1860)
คุณค่าของการนอนโดยที่มีน้ำละหมาด
มีรายงานจากมุอาซ บิน ญะบัล เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ว่าท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า :
«مَا مِنْ مُسْلِمٍ يَبِيتُ عَلَى ذِكْرٍ طَاهِرًا، فَيَتَعَارُّ مِنَ اللَّيْلِ، فَيَسْأَلُ اللَّهَ خَيْرًا مِنَ الدُّنْيَا وَالآخِرَةِ إِلاَّ أَعْطَاهُ إِيَّاهُ»
ความว่า : “ไม่มีมุสลิมคนใดที่นอนด้วยการกล่าวรำลึกถึงอัลลอฮฺโดยที่เขามีน้ำละหมาดแล้วตกใจตี่นในตอนกลางคืนแล้วเขาก็ขอความดีงามของโลกดุนยาและอาคิเราะฮฺจากอัลลอฮฺ เว้นแต่พระองค์จะประทานสิ่งนั้นให้กับเขา” (เศาะฮีหฺ, บันทึกโดยอะห์มัด หมายเลข 22048, อบู ดาวูด หมายเลข 5042 เศาะฮีหฺ สุนัน อบี ดาวูด หมายเลข 4216 และ บันทึกโดยอิบนุ มาญะฮฺ หมายเลข 3881 เศาะฮีหฺ สุนัน อิบนุมาญะฮฺ หมายเลข 3131)
อายะฮฺอัลกุรอานที่มุสลิมควรอ่านก่อนจะนอน
1. มีรายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮา ว่า :
أَنَّ النَّبِىَّ صلى الله عليه وسلم كَانَ إِذَا أَوَى إِلَى فِرَاشِهِ كُلَّ لَيْلَةٍ جَمَعَ كَفَّيْهِ ثُمَّ نَفَثَ فِيهِمَا فَقَرَأَ فِيهِمَا ( قُلْ هُوَ اللَّهُ أَحَدٌ ) وَ ( قُلْ أَعُوذُ بِرَبِّ الْفَلَقِ ) وَ ( قُلْ أَعُوذُ بِرَبِّ النَّاسِ )، ثُمَّ يَمْسَحُ بِهِمَا مَا اسْتَطَاعَ مِنْ جَسَدِهِ يَبْدَأُ بِهِمَا عَلَى رَأْسِهِ وَوَجْهِهِ وَمَا أَقْبَلَ مِنْ جَسَدِهِ يَفْعَلُ ذَلِكَ ثَلاَثَ مَرَّاتٍ
ความว่า : “ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม นั้น ทุก ๆ คืนเมื่อท่านเข้าไปยังที่นอนของท่าน ท่านจะรวบสองฝ่ามือของท่านเข้าด้วยกัน จากนั้นท่านจะเป่าลมลงในฝ่ามือทั้งสองแล้วก็อ่านซูเราะฮฺ กุลฮุวัลลอฮุอะหัด (ซูเราะฮฺอัลอิคลาส) ซูเราะฮฺ กุลอะอูซุบิร็อบบิลฟะลัก (ซูเราะฮฺอัลฟะลัก) และซูเราะฮฺ กุลอะอูซุบิร็อบบินนาส (ซูเราะฮฺอันนาส) เสร็จแล้วท่านก็จะเอามือทั้งสองลูบตามตัวทั่วเท่าที่จะสามารถทำได้ โดยท่านจะใช้มือทั้งสองเริ่มลูบจากศรีษะ ใบหน้า และด้านหน้าของลำตัวก่อน ซึ่งท่านจะทำอย่างนั้นเป็นจำนวนสามครั้งด้วยกัน” (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ หมายเลข 5017)
2. จากอบูฮุร็อยเราะฮฺ เล่าว่า:
وَكَّلَنِي رَسُولُ الله صلى الله عليه وسلم بِـحِفْظِ زَكَاةِ رَمَضَانَ، فَأَتَانِي آتٍ فَجَعَلَ يَـحْثُو مِنَ الطَّعَامِ، فَأَخَذْتُـهُ فَقُلْتُ: لأَرْفَعَنَّكَ إلَى رَسُولِ الله صلى الله عليه وسلم ـ فَقَصَّ الحَدِيثَ- فَقَالَ: إذَا أَوَيْتَ إلَى فِرَاشِكَ فَاقْرَأْ آيَةَ الكُرْسِيِّ، لَـمْ يَزَلْ مَعَكَ مِنَ الله حَافِظٌ، وَلا يَـقْرَبُكَ شَيْطَانٌ حَتَّى تُصْبِـحَ، فَقَالَ النَّبِيُّ صلى الله عليه وسلم: «صَدَقَكَ وَهُوَ كَذُوبٌ، ذَاكَ شَيْطَانٌ»
ความว่า : ท่านเราะสูลุลลอฮฺได้มอบหมายให้ฉันดูแลซะกาตเราะมะฎอน จู่ ๆ ก็มีคนผู้หนึ่งเข้ามาหาฉัน แล้วเขาก็เริ่มโกยอาหารส่วนหนึ่ง ฉันเลยจับเขาแล้วบอกว่า “ฉันจะฟ้องเจ้าต่อท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม อย่างแน่นอน (เขาเล่าเหตุการณ์ต่อจนกระทั่งว่า) แล้วเขาก็กล่าวว่า “เมื่อท่านจะเข้าไปยังที่นอนของท่าน ท่านก็จงอ่านอายัตอัลกุรสีย์แล้วอัลลอฮฺจะเป็นผู้คุ้มครองท่านเสมอ อีกทั้งชัยฏอนก็ไม่สามารถจะเข้าใกล้ท่านได้จนถึงท่านตื่นเช้า” (เมื่ออบู ฮุร็อยเราะฮฺเล่าเรื่องนี้แก่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม) ท่านนบีก็บอกว่า “เขาบอกความจริงกับท่านทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นนักโกหก นั้นแหล่ะคือตัวชัยฏอน” (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ ในลักษณะตะอฺลีก หมายเลข 5010, อัน-นะสาอีย์และคนอื่น ๆ ได้สานต่อด้วยสายรายงานที่เศาะฮีหฺ ดู มุคตะศ็อร เศาะฮีหฺ อัล-บุคอรีย์ โดยอัล-อัลบานีย์ 2:106)
การกล่าวตักบีร ตัสบีห และตัหมีดก่อนจะนอน
มีรายงานจากอะลี เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ว่า :
أَنَّ فَاطِمَةَ رضي الله عنها جاءت تسأل النبي خَادِمًا فَلَمْ تُوَافِقْهُ، قالت ... فَأَتَانَا وَقَدْ أخذنا مَضَاجِعَنَا ... فَقَالَ :«أَلاَ أَدُلُّكُمَا عَلَى خَيْرٍ مِمَّا سَأَلْتُمَاني؟، إِذَا أَخَذْتُمَا مَضَاجِعَكُمَا فَكَبِّرَا اللَّهَ أَرْبَعًا وَثَلاَثِينَ، وَاحْمَدَا ثَلاَثًا وَثَلاَثِينَ، وَسَبِّحَا ثَلاَثًا وَثَلاَثِينَ، فَإِنَّ ذَلِكَ خَيْرٌ لَكُمَا مِمَّا سَأَلْتُمَاهُ»
ความว่า : นางฟาฏิมะฮฺได้มาขอคนใช้จากท่านนบี แต่เธอกลับไม่ได้รับการตอบสนองจากท่าน เธอเล่าว่า ...”แล้วท่านก็มาหาเรา โดยที่เราได้เข้านอนแล้ว ... ท่านจึงบอกว่า จะเอาไม่ล่ะ ฉันจะแนะนำสิ่งที่ดีกว่าสิ่งที่เธอทั้งสองได้ขอจากฉัน ? เมื่อพวกเธอจะนอน จงกล่าวตักบีรเทิดทูนอัลลอฮฺ (อัลลอฮฺอักบัร) สามสิบสี่ครั้ง กล่าวสรรเสริญ (อัลหัมดุลิลลาฮฺ) สามสิบสามครั้ง และกล่าวตัสบีห (ซุบหานัลลอฮฺสามสิบสามครั้ง เพราะการกระทำดังกล่าวนั้นดีเลิศสำหรับเธอทั้งสองกว่าสิ่งที่ได้ขอมา” (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ตามสำนวนนี้ หมายเลข 3113 และมุสลิม หมายเลข 2727)
อย่ามีที่นอนหลายที่โดยไม่จำเป็น
มีรายงานจากญาบิร บิน อับดุลลอฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ว่าท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวกับเขาว่า :
«فِرَاشٌ لِلرَّجُلِ وَفِرَاشٌ لاِمْرَأَتِهِ وَالثَّالِثُ لِلضَّيْفِ، وَالرَّابِعُ لِلشَّيْطَانِ»
ความว่า : “หนึ่งที่นอนสำหรับผู้ชาย หนึ่งที่นอนสำหรับภรรยาของเขา ที่สามสำหรับแขก และที่สี่สำหรับชัยฏอน” (บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข 2084)
ไม่พูดคุยหลังจากอิชาอฺยกเว้นเพื่อวัตถุประสงค์ที่ดี
มีรายงานจากอบู บัรซะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ว่า :
أَنَّ النَّبِيَّ صلى الله عليه وسلم كَانَ لَا يُحِبُّ النَّوْمَ قَبْلَها وَلا الْحَدِيثَ بَعْدَها
ความว่า : ท่านเราะสูลุลลอฮฺ นั้น ไม่ชอบการนอนก่อนมัน(หมายถึงก่อนละหมาดอิชาอ์) และไม่ชอบการพูดคุยหลังจากมัน(หมายถึงหลังละหมาดอิชาอ์) (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ หมายเลข 599 และมุสลิมตามสำนวนนี้ หมายเลข 647)
การสะบัดที่นอนสามครั้ง
มีรายงานจากอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ว่าท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า :
«إِذَا أَوَى أَحَدُكُمْ إِلَى فِرَاشِهِ فَلْيَنْفُضْ فِرَاشَهُ بِدَاخِلَةِ إِزَارِهِ ، فَإِنَّهُ لاَ يَدْرِى مَا خَلَفَهُ عَلَيْهِ ، ثُمَّ يَقُولُ: بِاسْمِكَ رَبِّ وَضَعْتُ جَنْبِى، وَبِكَ أَرْفَعُهُ، إِنْ أَمْسَكْتَ نَفْسِى فَارْحَمْهَا، وَإِنْ أَرْسَلْتَهَا فَاحْفَظْهَا بِمَا تَحْفَظُ بِهِ عِبَادَكَ الصَّالِحِينَ».
ความว่า : “เมื่อพวกท่านคนใดเข้าไปยังที่นอนของเขา ขอให้เขาจงสะบัดที่นอนด้วยชายผ้าด้านในของเขา เพราะเขาไม่รู้หรอกว่าอะไรมาอยู่บนนั้นหลังจากที่เขาจากไป จากนั้นให้กล่าวว่า
بِاسْمِكَ رَبِّ وَضَعْتُ جَنْبِى، وَبِكَ أَرْفَعُهُ، إِنْ أَمْسَكْتَ نَفْسِى فَارْحَمْهَا، وَإِنْ أَرْسَلْتَهَا فَاحْفَظْهَا بِمَا تَحْفَظُ بِهِ عِبَادَكَ الصَّالِحِينَ
(ความว่า ด้วยนามของพระองค์ โอ้พระเจ้าของฉัน ฉันขอวางสีข้างลงนอน และด้วยพระองค์ฉันยกมันขึ้น หากพระองค์กักดวงวิญญานฉันไว้(ให้ฉันตาย) ก็ขอโปรดทรงปรานีต่อมัน และหากพระองค์ปล่อยมันไป(ให้ฟื้นตื่น) ก็ขอโปรดทรงคุ้มครองมันอย่างที่พระองค์ทรงคุ้มครองปวงบ่าวที่ดีทั้งหลาย) (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ตามสำนวนนี้ หมายเลข 6320 และมุสลิม หมายเลข 2714)
และในอีกสำนวนหนึ่ง ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า :
«فَلْيَنْفُضْهُ بِصَنِفَةِ ثَوْبِهِ ثَلاَثَ مَرَّاتٍ»
ความว่า : “ขอให้เขาจงสะบัดมันด้วยชายผ้าของเขาสามครั้ง” (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ หมายเลข 7393)
ให้เอาน้ำละหมาดแล้วนอนบนซีกตัวด้านขวา
จากอัล-บัรรออฺ บิน อาซิบ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เล่า ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวแก่ฉันว่า:
«إذَا أَتَيْتَ مَضْجَعَكَ فَتَوَضَّأ وَضُوءَكَ لِلصَّلاةِ، ثُمَّ اضْطَجِعَ عَلَى شِقِّكَ الأَيْـمَنِ، وَقُلْ: اللَّهُـمَّ أَسْلَـمْتُ وَجْهِي إلَيْكَ، وَفَوَّضْتُ أَمْرِي إلَيكَ، وَأَلْـجَأْتُ ظَهْرِي إلَيكَ، رَغْبَةً وَرَهْبَةً إلَيكَ، لَا مَلْـجَأَ وَلَا مَنْجَا مِنْكَ إلَّا إلَيكَ، آمَنْتُ بِكِتَابِكَ الَّذِي أَنْزَلْتَ، وَبِنَبِيِّكَ الَّذِي أَرْسَلْتَ، فَإنْ مِتَّ، مِتَّ عَلَى الفِطْرَةِ، وَاجْعَلْـهُنَّ آخِرَ مَا تَقُولُ».
ความว่า : “เมื่อท่านจะนอน ท่านก็จงเอาน้ำละหมาดดังน้ำละหมาดเพื่อการละหมาดของท่าน จากนั้น ท่านก็จงนอนบนซีกตัวด้านขวาและกล่าวว่า
اللَّهُـمَّ أَسْلَـمْتُ وَجْهِي إلَيْكَ، وَفَوَّضْتُ أَمْرِي إلَيكَ، وَأَلْـجَأْتُ ظَهْرِي إلَيكَ، رَغْبَةً وَرَهْبَةً إلَيكَ، لَا مَلْـجَأَ وَلَا مَنْجَا مِنْكَ إلَّا إلَيكَ، آمَنْتُ بِكِتَابِكَ الَّذِي أَنْزَلْتَ، وَبِنَبِيِّكَ الَّذِي أَرْسَلْتَ
(แปลว่า โอ้ พระองค์อัลลอฮฺ ! ฉันได้มอบตัวให้กับพระองค์แล้ว ฉันได้มอบหมายการงานทุกสิ่งให้กับพระองค์แล้ว และฉันได้ฝากเนื้อฝากตัวให้กับพระองค์แล้ว ด้วยความรักและความยำเกรงที่มีต่อพระองค์ ไม่มีที่พึ่ง ไม่มีที่ปลอดภัยจากพระองค์นอกจากด้วยการเข้าหาพระองค์ ฉันศรัทธาแล้วต่อคัมภีร์ที่พระองค์ได้ทรงประทานลงมา และต่อนบีที่พระองค์ได้ทรงส่งมา) ซึ่งถ้าหากท่านตาย ท่านก็จะตามในความบริสุทธิ์ และจงให้คำเหล่านี้เป็นคำสุดท้ายที่ท่านพูด” (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ตามสำนวนนี้ หมายเลข 6311 และมุสลิม หมายเลข 2710)
ให้เข้านอนโดยที่จิตใจไม่นึกจะโกงหรือริษยาต่อผู้ใดทั้งสิ้น
มีรายงานจากอะนัส เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ว่าอับดุลลอฮฺ บิน อัมร์ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุมา ได้กล่าวว่า :
سمعتُ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيهِ وَسَلَّم يَقُولُ فِى رَجُلٍ مِنَ الأَنْصَارِ ثَلاَثَ مِرَارٍ: «يَطْلُعُ عَلَيْكُمُ الآنَ رَجُلٌ مِنْ أَهْلِ الْجَنَّةِ» وفيه... : فَبَاتَ عِنْدَهُ عبدُاللهِ بن عَمْرٍو ثَلَاثَ لَيَالٍ، وقال له : أَرَدْتُ أَنْ آوِيَ إِلَيْكَ لِأَنْظُرَ مَا عَمَلُكَ فَأَقْتَدِيَ بِهِ، فَلَمْ أَرَكَ تَعْمَلُ كَثِيرَ عَمَلٍ، فَمَا الَّذِي بَلَغَ بِكَ مَا قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيهِ وَسَلَّم؟ فَقَالَ: مَا هُوَ إِلاَّ مَا رَأَيْتَ. قَالَ: فَلَمَّا وَلَّيْتُ دَعَانِي. فَقَالَ: مَا هُوَ إِلاَّ مَا رَأَيْتَ غَيْرَ أَنِّي لاَ أَجِدُ فِى نَفْسِي لأَحَدٍ مِنَ الْمُسْلِمِينَ غِشًّا، وَلاَ أَحْسُدُ أَحَداً عَلَى خَيْرٍ أَعْطَاهُ اللَّهُ إِيَّاهُ. فَقَالَ عَبْدُ اللَّهِ هَذِهِ الَّتِي بَلَغَتْ بِكَ وَهِيَ الَّتِي لاَ نُطِيقُ.
ความว่า : ฉันได้ยินท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวถึงชายชาวอันศอรผู้หนึ่งสามครั้งด้วยกัน (ท่านกล่าวว่า) “ขณะนี้ชายชาวสวรรค์ผู้หนึ่งกำลังมาถึงที่พวกท่านแล้ว “ ... แล้วอับดุลลอฮฺ บิน อัมรฺ ก็ได้ไปค้างคืนกับเขาเป็นเวลาสามคืน และเขาบอกว่า “ที่ฉันต้องการจะอยู่กับท่านก็เพื่อจะดูว่าอะไรคือการปฏิบัติของท่านแล้วฉันก็จะได้ทำตามด้วย แต่ฉันกลับไม่เห็นท่านกระทำการหลายอย่างเลย แล้วอะไรคือสิ่งที่เป็นข่าวเกี่ยวกับตัวท่านที่ท่านเราะสูลุลลอฮฺได้พูดถึง” เขาเลยตอบว่า “ก็ไม่มีอะไรนอกจากสิ่งที่ท่านเห็นนี่แหล่ะ” เขาเล่าว่า ครั้น เมื่อฉันหันหลังกลับ เขาก็เรียกฉัน แล้วบอกว่า “ก็ไม่มีอะไรนอกจากสิ่งที่ท่านเห็นนี่แหล่ะ เพียงแต่ว่าในจิตใจฉันไม่เคยมีความรู้สึกคดโกงหรือริษยาต่อมุสลิมคนใดเลยในสิ่งดีๆ ที่อัลลอฮฺ ได้ทรงประทานให้แก่เขา” อับดุลลอฮฺเลยกล่าวว่า “นี่แหล่ะ คือสิ่งที่เป็นข่าวเกี่ยวกับตัวท่าน และมันคือสิ่งพวกเราทำไม่ได้” (เศาะฮีหฺ บันทึกโดยอะห์มัด หมายเลข 12697 อัล-อัรนาอูฏ กล่าวว่า สายรายงานเศาะฮีหฺ)