Саййидул истиғфор
ความสำคัญและความประเสิรฐของดุอาอ์บทนี้
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวไว้ความว่า “ผู้ใดอ่านดุอาอ์สัยยิดุลอิสติฆฟาร(แม่บทหรือผู้นำแห่งการกล่าวขออภัยโทษ)นี้ ในเวลากลางวัน (ช่วงเช้า) ด้วยเปี่ยมศรัทธา แล้วเขาได้เสียชีวิตลงก่อนถึงเวลาเย็น เขาจะเป็นหนึ่งในบรรดาชาวสวรรค์ และผู้ใดอ่านดุอาอ์นี้ในเวลากลางคืน (ช่วงเย็น) ด้วยเปี่ยมศรัทธา แล้วเขาได้เสียชีวิตลงก่อนถึงเวลาเช้า เขาจะเป็นหนึ่งในบรรดาชาวสวรรค์เช่นเดียวกัน” (เศาะฮีหฺ อัล-บุคอรีย์, เลขที่ 6306, อัน-นะสาอีย์, เลขที่ 5524, อบู ดาวูด, เลขที่ 5070, อัต-ติรมิซีย์, เลขที่ 3453)
ตัวบทดุอาอ์
اَللَّهُمَّ أَنْتَ رَبِّي، لاَ إِلَهَ إِلاَّ أَنْتَ، خَلَقْتَنِي وَأَنَا عَبْدُكَ وَأَنَا عَلَى عَهْدِكَ وَوَعْدِكَ مَا اسْتَطَعْتُ، أَعُوْذُ بِكَ مِنْ شَرِّ مَا صَنَعْتُ، أَبُوْءُ لَكَ بِنِعْمَتِكَ عَلَيَّ، وَأَبُوْءُ بِذَنْبِي فَاغْفِرْلِي فَإِنَّهُ لاَ يَغْفِرُ الذُّنُوْبَ إِلاَّ أَنْتَ
คำอ่าน
อัลลอฮุมมา อันตา ร็อบบี, ลาอิลาฮะ อิลลา อันตา, คอลักตะนี วะอะนา อับดุกา, วะอะนา อะลา อะฮฺดิกา วาวะอฺดิกา มัสตะเฏาะอฺตู, อะอูซุบิกา มิน ชัรรี มา ศอนะอฺตู, อะบูอุ ละกา บินิอฺมะติกา อะลัยยา, วะอะบูอุ บิซัมบี, ฟัฆฟิรฺลี ฟะอินนะฮู ลา ยัฆฺฟิรุซ ซุนูบา อิลลา อันตา
ความหมาย
“โอ้อัลลอฮฺ พระองค์คือพระผู้อภิบาลของฉัน ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ พระองค์ได้ทรงสร้างฉันและฉันคือบ่าวของพระองค์ ตัวฉันกับสัญญาแห่งผลตอบแทนที่ดีและสัญญาแห่งการลงโทษของพระองค์นั้น (ฉันทำได้และฉันจะทำ)ตราบเท่าที่ฉันมีความสามารถเท่านั้น ฉันขอความคุ้มครองต่อพระองค์จากความชั่วร้ายที่ฉันได้กระทำไว้ ฉันกลับไปหาพระองค์ด้วยการยอมรับในความโปรดปรานของพระองค์ที่มีต่อตัวฉัน และฉันขอกลับไปหาพระองค์ด้วยการยอมรับในความผิดบาปของฉัน ดังนั้น ขอได้โปรดประทานอภัยแก่ฉันเถิด เพราะแท้จริงไม่มีผู้ใดสามารถประทานอภัยในบาปต่างๆ ได้นอกจากพระองค์เท่านั้น”
คำอธิบาย
ให้อ่านดุอาอ์นี้อย่างน้อยสองครั้งทุกวันในช่วงเช้าและเย็น ด้วยความอิคลาศ(บริสุทธิ์ใจ) โดยพยายามทำความเข้าใจและซึมซับกับความหมายให้ลึกซึ้งเพื่อจะได้เข้าถึงแก่นแท้ของนัยยะที่ยิ่งใหญ่อันซ่อนอยู่ในดุอาอ์นี้
ประโยคแรกของดุอาอ์ คือการยอมรับในความเป็นพระผู้อภิบาลของอัลลอฮฺผู้ยิ่งใหญ่ การศรัทธาในเอกองค์อัลลอฮฺผู้ทรงอำนาจเหนือทุกสรรพสิ่งทั้งปวงเช่นนี้คือเงื่อนไขแห่งการตอบรับดุอาอ์ รวมทั้งกิจการและอามัลอื่นๆ ทั้งปวง การวิงวอนขอต่อพระเจ้าจะไม่เกิดผลใดๆ หากผู้ขอไม่ได้ศรัทธาและไม่ยอมรับในพระองค์ ความสำคัญของการศรัทธาต่ออัลลอฮฺจึงมาเป็นอันดับแรกก่อนสิ่งอื่นทั้งสิ้น
ประโยคต่อมาคือการน้อมรับโดยดุษฎีและยอมรับต่อบุญคุณอันล้นพ้นของอัลลอฮฺที่มีต่อตัวบ่าว เพราะพระองค์คือผู้ทรงสร้าง ผู้ทรงให้กำเนิด ผู้ให้ชีวิตและความสะดวกสบายต่างๆ นานาในโลกนี้ โดยกำหนดให้มวลมนุษย์ต้องทำหน้าที่ผู้เป็นบ่าวให้ดีที่สุดและไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีปัจจัยใช้ดำรงชีพ
อย่างไรก็ตามแม้จะมีปัจจัยดำรงชีพ โอกาส และความสะดวกสบายมากมาย แต่ด้วยความอ่อนแอของมนุษย์ ทั้งในด้านร่างกาย จิตใจ และความคิด มนุษย์จึงไม่สามารถที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้สมบูรณ์ทั้งหมด หลายครั้งที่เขาหันเหจากเส้นทางที่ถูกต้อง หลายคราวที่ตกเป็นเหยื่อการล่อลวงของชัยฏอนและตัณหาให้ทำบาปและความผิดต่อองค์ผู้สร้าง ความผิดที่เกิดขึ้นโดยฝีมือมนุษย์เหล่านี้ล้วนแล้วอาศัยความสะดวกสบายที่อัลลอฮฺให้เขาทั้งสิ้น เป็นการใช้นิอฺมัตของอัลลอฮฺในทางที่พระองค์ไม่พอพระทัย เป็นความหลงลืมและไม่สำนึกต่อบุญคุณอันมหาศาลของอัลลอฮฺต่อเขา
ดังนั้น การที่จะลบล้างความผิดดังกล่าวจึงมีเพียงวิธีเดียว คือการกลับไปหาอัลลอฮฺด้วยหัวใจที่ยอมรับและสำนึกในความผิด พร้อมทั้งวิงวอนอ้อนขอให้พระองค์ผู้ทรงเมตตาประทานอภัยโทษ
ทั้งนี้ ยังมีผู้ใดอีกเล่าที่อาจจะให้อภัยโทษแก่บ่าวผู้อ่อนแอได้ นอกจากอัลลอฮฺเพียงผู้เดียวเท่านั้น นี่คือสุดยอดแห่งการยอมรับในพระผู้อภิบาลและการน้อมรับในอำนาจแห่งพระองค์ ซึ่งไม่มีผลตอบแทนใดที่เหมาะสมยิ่งมากไปกว่าการได้รับรางวัลเป็นที่พำนักในสวรรค์อันนิรันดร์กาล ดังที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้ระบุถึงความประเสริฐของดุอาอ์นี้ในหะดีษข้างต้น
วัลลอฮฺ อะอฺลัม.